วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Salmon Hor Mok ( Streamed salmon pancake)



Ingredients (serves 2-4)
100 g Salmon, finely minced
2 tablespoons red curry paste
2 eggs,beaten
2 tablespoons Coconut milk
1 teaspoon sugar
basil leaves for decoration
red Chili
50 ml. water

  1. Mince salmon with a blender. If you do not have a blender, Finely chopped salmon. Then mince it in a motar. Rest the salmon aside.
  2. Grind red curry paste and salmon together.
  3. Gradually add beaten eggs , 1-2 teaspoons at a time. Grind ingredients until well-blend. Need approximately 10-12 teaspoons beaten eggs.
  4. Add 25-5o ml. of water.
  5. In the meantime, boil water in a steamer.
  6. line a small bowl with basil leaves. Put all well-mixed ingredient into the bowl. Then stream in a streamer for 20-30 minute.
  7. Serve quickly when cooked. Top with coconut milk and red chili.



วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Macaroni Salad



Ingredients (serves 4-5)
250g cut macaroni
3 stalks celery, chopped
200g crab flavored pallock
1 red pepper, chopped
5 tablespoons low-fat mayonnaise
1 cup low-fat natural flavour yogurt
1/2 teaspoon salt
  1. Bring a pot of lightly salted water to a boil. Add macaroni and cook for 10 minutes, until tender. Drain and set aside to cool.
  2. In a large bowl, stir together celery, red pepper and crab flavored pallock.
  3. Mix mayonnaise and yogurt in a small bowl. Taste and adjust seasoning.
  4. Combine in the bowl and stir in macaroni until well blend.
  5. Cover and chill at least 1 hour before serving.




วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Linguine with Salmon pa-nang curry


Ingredients (serves 2)
200g Atlantic salmon steak
100g Linguine
50g pa-nang curry paste
100 ml. coconut milk
1 red pepper, chopped
2 cloves garlic, finely chopped
1 tablespoon sugar
1 teaspoon fish sauce
1 teaspoon concentrated lemon juice

  1. Marinated salmon with black pepper and salt for at least 30 minutes
  2. Pre-heat a large non-sticky sauce pan. Then add 2 teaspoons oil. Drop salmon steak in the pan and cook over medium-high heat. Then flip over the salmon to other side until cooked.
  3. Sit the salmon on oil-absorbing paper.
  4. Heat oil in a large sauce pan with medium heat. Stir fry garlic for 2-3 minutes, then add pa-nang curry pasted. Stir fry until fragrant.
  5. Add coconut milk 100 ml. and water 50 ml.
  6. Occasionally stir the ingredients for 4-5minutes, then add red pepper.
  7. Taste and adjust seasoning.
  8. When the paste is already cooked, add pan-fry salmon in the pan. Flip the salmon to let ingredient bathing all over.
  9. Sit the salmon in the pan and cover with lid. In the meantime, boil water in a pot. Add 2 teaspoons salt. Then add linguine and cook for 10 minutes or until pasta reaches al dente.
  10. Plate and serve quickly.

Food is love, love is food. Viva l'amour ^^

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แกงเผ็ดหน่อไม้ ( Bamboo shoots curry with Pork)


Ingredients ( serves 4-5)

300 g Pork, cut 1-2 cm. thick
50g Red curry paste
1 can of bamboo shoots, boiled for 5 minutes
200 ml. coconut milk
2 cloves of garlic, finely chopped
basil leaves
2 tablespoons vegetable oil
4-5 red chili, roughly chopped
seasonings such as fish sauce, sugar

  1. Heat the oil in a large saucepan with medium heat. Stir fry garlic for 2-3 minutes.
  2. Add red curry paste and stir occasionally until fragrant.
  3. Add pork and stirring until almost cooked.
  4. Add coconut milk 200 ml. and water 100 ml. then bring to boil.
  5. Add Bamboo shoots and cover the saucepan with a lid
  6. Taste and adjust seasoning with fish sauce, sugar

serve on jasmine rice bed and siding with or without fried egg. There are good together !! GREAT combination !

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Chocolate brownies



I have never baked and always believe baking is far beyond my ability to cook ,up until a couple of months ago when my good friend, Helga, handed me easy and do-able brownie recipe. This recipe uses premixed brownie powder which makes your first baking is absolutely not painful.

Ingredient (for 9-inch square pan)
400g premixed brownie powder, any brands you prefer
1/4 cup water
1/4 cup cooking oil
1 egg

  1. Heat oven to 350F. Grease bottom only of a pan
  2. Stir premixed powder, water, cooking oil and egg in a bowel, using a spoon until well blended
  3. Spread in pan
  4. Bake 30-33 minutes, you can interval check your brownie or until toothpick inserted 2 inches from side of pan comes out almost clean
  5. Cool completely for easier cutting and serve

Heart of baking is how to encourage yourself do another baking !! Suggest to start with an easy one. Bon Appetite ^^

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข้าวผัดกิมจิ ( Kimchi fried rice)


เครื่องปรุงและส่วนผสม(สำหรับ 4 ที่)
ข้าวสวยหุง 4 ทัพพี
กิมจิผักกาด 2-3 ช้อนโต๊ะ
เนื้อหมูติดมัน 100 กรัม หมักด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทย
เห็ดเข็มทอง 100 กรัม
เต้าหู้อ่อนหั่นเต๋า 100 กรัม
กระเทียม 3-4 กลีบ
ต้นหอม
ซอสศรีราชา
โชหยุ

วิธีทำ
  1. นำกระเทียมลงไปเจียวจนหอม นำเนื้อหมูลงไปผัดให้สุก จากนั้นนำกิมจิลงไปผัด ระวังอย่าใช้ไฟแรงนะคะ ลดไฟลงมาเป็นไฟปานกลาง
  2. ปรุงรสด้วยซอสศรีราชา โชหยุ
  3. ใส่เห็ดเข็มทองและเต้าหู้อ่อนลงไปผัด เบามือระวังเต้าหู้แตกละเอียดไม่สวยนะคะ
  4. ใส่ข้าวสวยลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน จนสีสวยดี ชิมรสและปรุงรสตามชอบ ตักเสิร์ฟร้อนๆ

Ingredients (Serves 4)
200 g Cooked Jasmine rice
2-3 tablespoons cut cabbage Kimchi
Pork 100 g , marinated with soya sauce and pepper, then slice in small thin pieces
100 g Enoki mushroom, roughly cut
100 g Tofu, diced
3-4 finely chopped garlic
chopped Chinese onion
1-2 tablespoons Chili sauce
1 teaspoon Soyu sauce
  1. Marinate pork with soya sauce and pepper for at least 30 minutes. Then, Slice into small, thin piece.
  2. Heat the oil in sauce pan. Stir-fry chopped garlic until it turns yellow or fragrant . Then add sliced pork, fry for 4-5 minutes until done.
  3. Add tofu and stir-fry gently , taking care not ot let the tofu lose in its shape.
  4. Add cut cabbage Kimchi, Enoki mushroom and stir-fry for a couple of minutes until all ingredients is well-mixed.
  5. Add cooked jasmine rice
  6. Flavor with chili sauce and Soyu. Taste and adjust the seasoning.
  7. Spoon into serving dish, garnished with chopped Chinese onion.




วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

น้ำพริกกะปิ ( Shrimp paste chilli sauce )


ช่วงไหนที่รู้สึกว่ารับประทานผักน้อย แม่ครัวจะพยายามทำเมนูน้ำพริกรับประทาน เพราะจะทำให้ได้รับประทานผักกับ ยิ่งอยู่ต่างประเทศ อาหารจานผัก ถ้าไม่นับเมนูมังสวิรัติและสลัด หารับประทานยากนะคะ วันนี้เอาเมนูน้ำพริกกะปิมาฝาก ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ
ส่วนผสม
กะปิอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ
น้ำมะนาว
กระเทียม
พริกขี้หนู
หอมแดง
ปลาแห้ง หรือ กุ้งแห้ง (แม่ครัวใช้ปลากรอบแทนค่ะ )
มะเขือพวง ( ถ้าหาได้นะคะ สำหรับคนไกลบ้าน)
มะเขือม่วง (egg plant)
ไข่ไก่
แป้งมัน
ผักกับ : แตงกวา ผักกาดขาว มะเขือ ถั่วฝักยาว ( เลือกเอาตามชอบ และตามที่หาได้)

วิธีทำ
  1. ตำปลากรอบให้ละเอียดด้วยครกและพักไว้ ใครใช้กุ้งแห้ง ปลาแห้งห็เอามาตำก่อนเช่นกันค่ะ
  2. นำกระเทียม 5-6 กลีบ พริกขี้หนู ( มากน้อยเอาตามระดับความเผ็ดที่ต้องการ) หอมแดง มาตำให้ละเอียด จากนั้นเอากะปิลงไปตำค่ะ ภาษาแม่บ้านเค้าว่าตำให้กะปิฟู เดาเอาเองว่าน่าจะตำให้กะปิดูนวลเนียนสวยงาม ใช้กะปิไม่เยอะนะคะ ราว 2 ช้อนโต๊ะ ก็ได้น้ำพริกถ้วยใหญ่แล้ว พอตำได้ที่ให้เติมน้ำต้มสุกไปเล็กน้อยค่ะ
  3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ มะนาว ค่อยๆชิมจนรสเค็ม กลมกลืนกับรสเปรี้ยว เผ็ด หวานนะคะ อันนี้บอกไม่ได้ว่าเติมอะไรเท่าไหร่ เพราะแม่ครัวไม่ทราบจริงๆ เอาเป็นว่ารสที่เราชอบ
  4. ปิดท้ายด้วยนำปลากรอบตำมาใส่ลงไปและคลุกให้เข้ากัน แม่ครัวชอบให้มันมีอะไรกรุบๆ ไม่ใช่น้ำพริกโล้นๆ ใครชอบกุ้งแห้ง ปลาแห้ง ก็เลือกตามชอบ สูตรเรายืดหยุ่นมากๆค่ะ
วิธีทำมะเขือชุบไข่
  1. มีคนแนะนำว่าให้หั่นมะเขือ หนาประมาณ 1 เซนติเมตร และนำไปแช่น้ำเย็นราว 10 นาทีเพื่อให้มะเขืออมน้ำ จนอวบ เวลาทอดจะไม่ค่อยอมน้ำมัน
  2. ตีไข่ไก่สองฟอง ผสมแป้งทอดกรอบ หรือแป้งโกกิเล็กน้อย เพื่อให้ไข่ติดมะเขือดียิ่งขึ้น
  3. เวลาทอดเราตั้งน้ำมันให้ร้อน แต่ทอดด้วยไฟปานกลางนะคะ ถ้าทอดไฟแรงเกินไป ไข่จะไหม้ก่อนมะเขือสุก แต่ถ้าไฟอ่อนมะเขือจะอมน้ำมัน รับประทานไม่อร่อยเลยค่ะ
  4. ยกเสิร์ฟร้อนๆ อย่าทิ้งไว้นาน เพราะจะไม่กรอบอร่อย ใครมีชะอมก็เอามาชุบไข่ทอดจะยิ่งเพิ่มรสชาติ แต่วันนี้แม่ครัวหาชะอมไม่ได้จริงๆ อีกอย่างที่รับประทานเข้ากันคือปลาทูทอดค่ะ

ขอให้แม่บ้านทุกท่านสนุกกับเมนูพื้นบ้านไทย ที่ทั้งง่ายและดีต่อสุขภาพนะคะ แต่อย่ารับประทานแต่มะเขือชุบไข่ ต้องรับประทานผักเยอะๆค่ะ

Bon appetite ^0^


วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข้าวขาหมูต้มโค้ก (Coca-cola pork shank with rice and hard-boiled egg)




ไปได้สูตรขาหมูต้มโค้กจากครัวไกลบ้าน วันนี้เลยเอาสูตรมาแจกและลองทำรับประทานไปด้วย ชื่อภาษาฝรั่ง แม่ครัวคิดเองว่ามันคือ Coca-cola pork shank with rice and hard-boiled egg ยาวมากๆ แต่เอาไว้ให้คนที่มีเพื่อนฝรั่งและเพื่อนมันดันถาม ^^ เครื่องปรุงและขั้นตอนค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ แต่แม่ครัวมักจะตื่นเต้นทุกที ที่ได้ลองเมนูใหม่ๆ นะคะ ไม่ทราบคุณแม่บ้านท่านอื่นเป็นเหมือนกันรึป่าว ไม่พูดมาก ให้เสียเวลา เราเข้าประเด็นและไปเปิดครัวกันเลยค่ะ ^^

ส่วนผสมและเครื่องปรุง
ขาหมูติดมัน
โค้กขนาด 2 ลิตร
ผักคะน้า
ไข่ไก่
รากผักชี
กระเทียม
พริกไทย
เกลือ
ผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ
ผักกาดดอง

วิธีทำ
  1. ขั้นตอนแรก เราต้องเตรียมขาหมูก่อน โดยนำมาล้างให้สะอาด ถ้าเห็นขนติดอยู่ เจ้าของสูตรเค้าให้เอาน้ำเดือดราดให้ทั่วและใช้มีดขูดขนออก พร้อมทั้งมันที่ติดตามหนัง ป้องกันการเหม็นหืนค่ะ เสร็จจากขั้นตอนขูด ต้องเอาไปล้างอีกรอบ เอาจนสะอาด ไม่เหม็น
  2. ตำรากผักชี กระเทียม 15 กลีบ พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะและเกลือ ให้เข้ากัน นำส่วนผสมที่ได้ไปคลุกกับขาหมูที่เราเตรียมไว้
  3. เทโค้ก ปริมาณ 1 ลิตรใส่ลงหม้อ และเอาขาหมูลงไปต้ม เห็นฟองฟ่อดอย่าตกใจนะคะ ค่อยๆ เท ค่อยๆต้มไปค่ะ เติมผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้มีกลิ่นหอม
  4. ระหว่างรอเคี่ยวขาหมู นำไข่ไก่มาต้มรอเลยค่ะ เช่นเคยตามชอบค่ะ ใครชอบยางมะตูม หรือแบบแข็ง ไม่มีบังคับค่ะ พอต้มไข่เสร็จแล้ว นำไข่มาปอกเปลือก และใส่ลงไปในหม้อขาหมู
  5. ใช้เวลาตุ๋นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ยิ่งตุ๋นนานยิ่งรสชาติดี แต่การที่มีโค้ก ช่วยได้มากเพราะทำให้ขาหมูนิ่มเร็วกว่าปกติค่ะ ระหว่างนี้อาจปิดฝาหม้อ และลดไฟลงให้อ่อน ป้องกันไม่ให้โค้กระเบิด.. ล้อเล่นค่ะ เดี๋ยวฟองจะฟู่มากไป ค่อยๆชิมรสและเคี่ยวไปเรื่อยๆ จากนั้นใส่ต้นคะน้าลงไป เอาให้สีพอเปลี่ยน อย่าต้มจนดำนะคะ
  6. ตอนนี้เรามาทำน้้ำจิ้มกัน ส่วนผสมก็ง่ายๆนิดเดียว เอาพริกขี้หนูมาตำให้ละเอียดเติมเกลือเล็กน้อย จากนั้นตักใส่ชามปรุงด้วยน้ำส้มสายชู
  7. รอจนขาหมูนิ่ม และสีสวย นำมาหั่นเสิร์ฟ ใครชอบหนัง ชอบเนื้อ เนื้อล้วน เนื้อหนังสั่งได้ ^^ เวลาเสิร์ฟอย่าลืมเครื่องเคียงคือ ผักกาดดองและต้นคะน้า
นานๆทำอาหารยากๆ รับประทานซักทีก็สนุกดีนะคะ แต่ขืนรับประทานบ่อยๆ ขาแม่ครัว คงกลายเป็นขาหมูแน่ๆวันนี้ลาไปก่อน แล้วจะเอาเมนูใหม่ๆ มานำเสนออีกค่ะ บายๆ