วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

แกงมัสมั่นน่องไก่ (Chicken Masmun Curry)



ตอนเรียนมัธยม เคยท่องโคลงกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่2 ที่ว่า " มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา" ท่องทีไร น้ำลายมันสอทุกทีค่ะ เพราะใจมันลอยไปหาแกงมัสมั่นหอมๆ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ

แกงมัสมั่น สันนิษฐานว่ามาจาก ต้นเครื่องชาวอินเดีย คณะทูตชาวเปอร์เชียได้บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นเจ้าไทยองค์เดียวที่เสวยอาหารแขกมันๆ ได้ แม้หลังจากขึ้นครองราชย์สมเด็จพระนารายณ์ก็ยังคงมีพ่อครัวซึ่งเป็นแขกอินเดีย ทำหน้าที่เป็นต้นเครื่องถวายอาหารอินเดียให้เสวยเป็นครั้งครา แกงมัสมั่น เป็นตำรับอาหารที่ผสมผสานระหว่างครัวอินเดีย กับ ครัวไทย ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเลือกใช้เครื่องเทศ สมุนไพร และเครื่องปรุงอย่างชาญฉลาด

แกงมัสมั่น ถือเป็นอาหารขึ้นชื่อของครัวสกุล บุนนาค ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเฉกอะหมัด พ่อครัวเปอร์เชียที่รับราชการในราชสำนักสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แม้เดิมจะนับถือศาสนาอิสลามนิกายซีอะห์ หรือที่คนไทยสมัยก่อน เรียกว่า แขกเจ้าเซ็น ต่อมาลูกหลานสกุลบุนนาค เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และได้ดัดแปลงอาหารไทยมุสลิมออกมามากมายหลายชนิด โดยเปลี่ยนจากเดิมที่ใช้นมสด หรือ นมเปรี้ยว มาเป็น กะทิ ซึ่งมีมัสมั่นก็เป็นอาหารที่ถูกปรุงจนถูกลิ้นคนไทย และกลายเป็นอาหารไทยในที่สุดค่ะ

ได้ความรู้พอหอมปากหอมคอ เราไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันนะคะ

ส่วนผสมหลัก

1. เนื้อไก่ เลือกใช้ส่วนอกหรือน่องก็ได้ค่ะ สูตรนี้ใช้น่องไก่

2. กะทิ แยกหัวกะทิและหางกะทิไว้นะคะ ใช้หางกะทิประมาณ 300 ซีซีค่ะ

3. น้ำพริกแกงมัสมั่น ใครมีฝีมือสามารถตำเองได้นะคะ เข้าไปดูรายละเอียดที่นี่ค่ะhttp//www.panyathai.or.th ส่วนแม่ครัวขี้เกียจ เลยขออนุญาตใช้น้ำพริกสำเร็จรูปนะคะ

4. มันเทศหั่นสี่เหลี่ยม

5. ถั่วลิสง

วิธีทำ

1. นำหางกะทิตั้งไปให้เดือด จากนั้นใส่น่องไก่ที่เตรียมไว้และมันเทศลงไปต้มเพื่อให้น่องไก่และมันเทศเปื่อย นิ่ม

2. ตั้งกระทะแยก ใส่น้ำมันประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ และนำน้ำพริกแกงลงไปผัดให้หอม จากนั้นค่อยๆหยอดหัวกะทิลงไปผัด ทีละน้อยๆค่ะ จนทั้งน้ำพริกและหัวกะทิเข้ากันดี ขั้นตอนนี้จะสร้างกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งบ้าน เปิดที่ดูดควันด้วยนะคะ

3. นำน้ำพริกแกงที่ผัดกับหัวกะทิ ใส่ไปในหม้อที่เราต้มน่องไก่ไว้ จากนั้นชิมรสค่ะ รสของมัสมั่นนั้นจะเค็มนำนะคะ ตามด้วยหวานและเปรี้ยว โดยความหวานให้มาจากน้ำตาลปี๊บ ส่วนเปรี้ยวใช้มะขามเปียกค่ะ

4. ได้รสกลมกล่อม ให้ใส่ถั่วลิสงลงไป เคี่ยวต่ออีกซักชั่วโมง สองชั่วโมงจนเนื้อไก่นิ่มเละ น้ำแกงงวดๆ ยิ่งเคี่ยวนานรสจะเข้มข้นมากขึ้นค่ะ เสร็จแล้วตักเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวย อูยยย..น้ำลายไหลแล้วค่ะ


ขอให้สนุกกับการเข้าครัวและเมนูมัสมั่นนะคะ ^^


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น