ตอนเรียนมัธยม เคยท่องโคลงกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่2 ที่ว่า " มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา" ท่องทีไร น้ำลายมันสอทุกทีค่ะ เพราะใจมันลอยไปหาแกงมัสมั่นหอมๆ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ
แกงมัสมั่น สันนิษฐานว่ามาจาก “ ต้นเครื่องชาวอินเดีย ” คณะทูตชาวเปอร์เชียได้บันทึกไว้ว่า “ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ” เป็นเจ้าไทยองค์เดียวที่เสวยอาหารแขกมันๆ ได้ แม้หลังจากขึ้นครองราชย์สมเด็จพระนารายณ์ก็ยังคงมีพ่อครัวซึ่งเป็นแขกอินเดีย ทำหน้าที่เป็นต้นเครื่องถวายอาหารอินเดียให้เสวยเป็นครั้งครา แกงมัสมั่น เป็นตำรับอาหารที่ผสมผสานระหว่างครัวอินเดีย กับ ครัวไทย ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเลือกใช้เครื่องเทศ สมุนไพร และเครื่องปรุงอย่างชาญฉลาด
แกงมัสมั่น ถือเป็นอาหารขึ้นชื่อของครัวสกุล “ บุนนาค ” ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเฉกอะหมัด พ่อครัวเปอร์เชียที่รับราชการในราชสำนักสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แม้เดิมจะนับถือศาสนาอิสลามนิกายซีอะห์ หรือที่คนไทยสมัยก่อน เรียกว่า “ แขกเจ้าเซ็น ” ต่อมาลูกหลานสกุลบุนนาค เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และได้ดัดแปลงอาหารไทยมุสลิมออกมามากมายหลายชนิด โดยเปลี่ยนจากเดิมที่ใช้นมสด หรือ นมเปรี้ยว มาเป็น กะทิ ซึ่งมีมัสมั่นก็เป็นอาหารที่ถูกปรุงจนถูกลิ้นคนไทย และกลายเป็นอาหารไทยในที่สุดค่ะ
ได้ความรู้พอหอมปากหอมคอ เราไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันนะคะ
ส่วนผสมหลัก
1. เนื้อไก่ เลือกใช้ส่วนอกหรือน่องก็ได้ค่ะ สูตรนี้ใช้น่องไก่
2. กะทิ แยกหัวกะทิและหางกะทิไว้นะคะ ใช้หางกะทิประมาณ 300 ซีซีค่ะ
3. น้ำพริกแกงมัสมั่น ใครมีฝีมือสามารถตำเองได้นะคะ เข้าไปดูรายละเอียดที่นี่ค่ะhttp//www.panyathai.or.th ส่วนแม่ครัวขี้เกียจ เลยขออนุญาตใช้น้ำพริกสำเร็จรูปนะคะ
4. มันเทศหั่นสี่เหลี่ยม
5. ถั่วลิสง
วิธีทำ
1. นำหางกะทิตั้งไปให้เดือด จากนั้นใส่น่องไก่ที่เตรียมไว้และมันเทศลงไปต้มเพื่อให้น่องไก่และมันเทศเปื่อย นิ่ม
2. ตั้งกระทะแยก ใส่น้ำมันประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ และนำน้ำพริกแกงลงไปผัดให้หอม จากนั้นค่อยๆหยอดหัวกะทิลงไปผัด ทีละน้อยๆค่ะ จนทั้งน้ำพริกและหัวกะทิเข้ากันดี ขั้นตอนนี้จะสร้างกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งบ้าน เปิดที่ดูดควันด้วยนะคะ
3. นำน้ำพริกแกงที่ผัดกับหัวกะทิ ใส่ไปในหม้อที่เราต้มน่องไก่ไว้ จากนั้นชิมรสค่ะ รสของมัสมั่นนั้นจะเค็มนำนะคะ ตามด้วยหวานและเปรี้ยว โดยความหวานให้มาจากน้ำตาลปี๊บ ส่วนเปรี้ยวใช้มะขามเปียกค่ะ
4. ได้รสกลมกล่อม ให้ใส่ถั่วลิสงลงไป เคี่ยวต่ออีกซักชั่วโมง สองชั่วโมงจนเนื้อไก่นิ่มเละ น้ำแกงงวดๆ ยิ่งเคี่ยวนานรสจะเข้มข้นมากขึ้นค่ะ เสร็จแล้วตักเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวย อูยยย..น้ำลายไหลแล้วค่ะ
ขอให้สนุกกับการเข้าครัวและเมนูมัสมั่นนะคะ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น