วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ผัดขี้เมา (Fried drunken pork)


ไม่รู้ว่าต้นกำเนิดผัดขี้เมามาจากไหน แล้วยังสงสัยอีกว่าทำไมต้องผัดขี้เมา เพราะส่วนผสมไม่ได้มีเหล้าเลยสักนิด ลองไปค้นดูเค้าบอกว่าอาหารจานนี้เป็นการผสมผสานระหว่างอาหารไทย ลาว และจีน เกิดจากการที่ชาวจีนอพยพมายังละแวกนี้และดัดแปลงอาหารจานนี้ขึ้นค่ะ
ไปค้นคว้าเพิ่มอีก ในหนังสือชื่อ “อาหารรสวิเศษของคนโบราณ” เขียนโดยอาจารย์ประยูร อุลุชาฎะ ท่านเขียนไว้ว่าผัดใบกะเพราเป็นของที่เพิ่งนิยมกัน เมื่อ 30 กว่าปีมานี้เอง สมัยก่อนนั้นถ้าใครพูดถึงผัดขี้เมา เขาก็จะนึกถึงเนื้อวัวที่สับละเอียด ที่เอามาผัดกับพริกขี้หนูสวนเม็ดจิ๋ว ๆ โขลกทั้งก้านปนกับกระเทียมเท่านั้น ไม่มีการใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่น และถ้าเป็นผัดกะเพราก็จะใช้เฉพาะเนื้อไก่ ที่เอามาหั่นเป็นชิ้น ๆ เอามาผัด ด้วยเครื่องพริกแบบเดียวกัน ทั้งผัดขี้เมาและผัดกะเพรานี้จะถูกปรุงรสให้จัดจ้าน ด้วยพริกโขลกเป็นหลัก พร้อมเหยาะซีอิ้วดำลงไปนิด ๆ เพื่อให้เกิดสี อาจเพิ่มกลิ่นหอมด้วยการใส่สามเกลอ (รากผักชี+กระเทียม+พริกไทย) โขลกละเอียดลงไปผัดกับพริกด้วย และส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือ ใบกะเพราที่เด็ดจนถึงก้าน จะต้องเป็นกะเพราแดงเท่านั้นเสียด้วย ถึงจะได้กลิ่นรสร้อนแรงตามสูตร แต่ปัจจุบันทั้งผัดขี้เมาและผัดกะเพราถูกประยุกต์ไปเป็นเมนูต่างๆมากมาย แล้วยังประยุกต์ไปรับประทานกับอาหารฝรั่งเกิดเป็น fusion food เช่น สปาเกตตี้ผัดขี้เมา เป็นต้นค่ะ เอาล่ะ มาดูส่วนผสมกันดีกว่านะคะ

ส่วนผสม
เนื้อสัตว์ตามชอบ แม่ครัวใช้เนื้อหมูเพราะต้องการเคลียร์ตู้เย็นค่ะ
ถั่วฝักยาว
ใบกะเพรา
ใบโหระพา
เห็ดนางฟ้า
พริกขี้หนู
กระเทียม
น้ำมันหอย
น้ำปลา น้ำตาล พริกไทยป่น ตามชอบ
วิธีทำ ก็ไม่ยากเลยค่ะ เอาส่วนผสมที่ว่ามานั้นโยนลงไปผัด ฮ่าๆๆๆ เน้นว่าต้องหนักกลิ่นกะเพรา โหระพา พริกขี้หนู พริกไทย รับรองอร่อยเหาะ

ทนไม่ไหวแล้วววว อยากกินบ้างแล้วค่ะ ^^ ขอตัวก่อนนะคะ ไว้มาเข้าครัวกันใหม่ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น