วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สปาเกตตี้แกงเขียวหวานหมู



ความรู้รอบตัวเล็กๆน้อยๆ ที่แม่บ้านควรทราบคือ สปาเกตตี้ (Spaghetti) เป็นพาสต้าชนิดหนึ่ง พาสต้าเป็นชื่อรวมๆ ที่ใช้เรียกก๋วยเตี๋ยวฝรั่งทำจากแป้ง จากนั้นมีการใส่ส่วนผสมหลากหลายชนิด รวมทั้งผลิตออกมาเป็นรูปร่างแบบต่างๆ ชวนให้งงเล่น พาสต้านั้น ถ้าแบ่งจากรูปร่างลักษณะแล้ว มีราว 20 กว่าชนิดค่ะ ที่เรารู้จักกันดี คงเป็น macheroni (พาสต้าหลอดๆ), Lasagna ( พาสต้าแบบแผ่น),Fusilli (พาสต้าเกลียว), Penne (พาสต้าหลอดปลายตัด) และ spaghetti (พาสต้าเส้นยาวบางๆ)
ถึงแม้พาสต้า จะเป็นสัญลักษณ์ของครัวอิตาเลียน แต่จริงๆ แล้วพาสต้ามีต้นกำเนิดจากจีนแผ่นดินใหญ่ ว่าไปแล้วก็เป็นพี่น้องกับก๋วยเตี๋ยวของชาวจีนนั่นเอง เมื่อนักเดินเรือ Marco Polo ได้เดินทางไปประเทศจีน เค้าก็ได้นำอาหารชนิดนี้กลับมาโด่งดังในทวีปยุโรป ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทำให้การปรุงพาสต้าแตกต่างกันไป และมีความหลากหลายอย่างมากค่ะ
สำหรับครัวไทย พาสต้านำมาประกอบอาหารไทยได้อร่อยหลายเมนู วันนี้เมนูที่จะนำเสนอคือ สปาเกตตี้แกงเขียวหวานหมู วิธีการทำวันนี้จะเน้นที่การเตรียมเส้นสปาเกตตี้ ให้เหนียว นุ่ม ดึ๋งดั๋งนะคะ ก่อนอื่นเอาส่วนผสมไปก่อนค่ะ
  • เส้นสปาเกตตี้
  • เนื้อหมูหั่นเต๋า
  • น้ำพริกแกงเขียวหวาน
  • กะทิอย่างดี
  • น้ำมัน
  • น้ำปลาดี
  • ใบโหระพา
  • พริกชี้ฟ้า
  • เห็ด
วิธีการเตรียมเส้นสปาเกตตี้ : ต้มน้ำให้สุกในหม้อขนาดใหญ่ ใส่น้ำ 1/2 หรือ 3/4 ของหม้อ ต้มจนน้ำเดือดปุดๆ จากนั้นเติมเกลือป่นลงไปสักเล็กน้อย ทิ้งไว้จนน้ำเดือด แล้วใส่เส้นสปาเกตตี้ลงไป วางเส้นแนวตั้งค่ะ อย่าให้เส้นหักนะคะ ส่วนมากใช้เวลาต้มไม่เกิน 10 นาที คนเส้นนานๆทีเพื่อไม่ให้เส้นติดก้นหม้อ อาจทดสอบด้วยการจับเส้นสปาเกตตี้ดูค่ะว่าหยุ่นๆรึยัง ภาษา Chef เค้าเรียกว่า pasta reaches al dente คือ เส้นเหนียวนุ่ม แต่ไม่แข็ง เมื่อสุกแล้วเราเทน้ำต้มออกค่ะและนำเส้นไปผ่านน้ำเย็น และพักให้สะเด็ดน้ำ

หลังจากนั้นเรามาเตรียมส่วนของแกงเขียวหวาน วิธีการไม่ยุ่งยาก เริ่มจากคั่วน้ำพริกแกงจนหอม และหยอดหัวกะทิลงไปผัดจนแตกมัน จากนั้นนำเนื้อหมูลงไปผัด เมื่อเนื้อหมูสุก เติมหางกะทิไปอีกเล็กน้อย พร้อมผักที่เราเตรียมไว้ ปรุงรสตามชอบค่ะ เวลาเสิร์ฟ จะชอบเอาแกงเขียวหวานมาคลุกเส้น เพราะเส้นจะไม่เละและดูสวย ถ้าเอาลงไปผัด อาจเละ และไม่สวยได้ อันนี้แล้วแต่เทคนิคแม่บ้านนะคะ

เมนูง่ายๆแบบนี้ รีบลองทำรับประทานเลยค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น