วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

แกงจืดมะระ ไม่ให้ขม (เทคนิคคุณแม่)



คนโบราณเค้าว่า" หวานเป็นลม ขมเป็นยา" เด็กๆ อาจเถียงว่า ยาเดี๋ยวนี้หวานออก ^^ นั่นก็เพราะมีการเติมน้ำตาลลงไปเพื่อกลบความขมของยามากกว่าที่ยานั้นๆ จะหวานด้วยตัวมันเองค่ะ และทุกครั้งถ้าพูดถึงของขมๆ ต้องนึกถึง "มะระ" เลยนะคะ มะระเป็นไม้เลื้อยในวงศ์แตง ผลของมันมีรสขม แต่ชาวจีนเชื่อว่าเป็นยอดอาหารค่ะ มะระมีอยู่ 2 พันธุ์คือมะระจีนและมะระขี้นก โดยสรรพคุณทางยานั้นมีการศึกษาในมะระขี้นกมากกว่า โดยเฉพาะการเสริมภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง มะระขี้นกเค้าเด่นเรื่องนี้
คนไทยเรานิยมนำมะระมาปรุงอาหารหลายรูปแบบ เรียกว่าไม่กลัวขม แต่ที่นิยมมากคงเป็นแกงจืดมะระ บอกได้เลยว่าสำหรับตัวเองแกงจืดมะระเป็นเมนูที่ลำบากใจจะทำที่สุด เพราะถ้าจะทำให้ขมน้อย และอร่อยนี่ยากจริงๆ สุดสัปดาห์นี้โชคดี ได้มีโอกาสเรียนรู้เทคนิคการตุ๋นมะระจากคุณแม่ เลยได้แกงจืดมะระยัดไส้หมูสับ มาเป็นเมนูอาหารเย็นสำหรับวันอากาศร้อนๆ ในซาน ฟรานซิสโกค่ะ

คุณแม่เผยเคล็ดลับ ที่แอบเอามาจากคุณยายอีกทีว่า วิธีทำแกงจืดมะระไม่ให้ขม มีดังนี้
  1. ล้างมะระให้สะอาด คว้านเมล็ดออกให้หมด จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเกลือ หรืออาจโรยเกลือก็ได้นะคะ
  2. การยัดไส้หมูสับไม่มีผลต่อรสขมค่ะ แต่มีผลต่อรสอาหาร หมูสับที่นำมายัดไส้ ต้องหมักด้วยพริกไทย ซีอิ๊วขาว ให้มีกลิ่นหอม
  3. ต้มน้ำแกงให้เดือด (อย่าลืมใส่กระดูกหมูหรือจะใส่ซุปก้อนก็ได้) เอามะระยัดไส้ใส่ลงตอนน้ำเดือดค่ะ
  4. ห้ามคนเด็ดขาด อันนี้คุณแม่ย้ำมากๆ ปิดฝาและรอสักพักก่อนลดไฟลงเพื่อตุ๋นมะระให้นิ่ม ยิ่งตุ๋นนาน ความขมจะลดลง
  5. บางคนจะเติมผักกาดดองลงไปเพื่อตัดรสขมของน้ำแกงค่ะ คุณแม่ก็ใส่ผักกาดดอง บอกว่าน้ำแกงจะกลมกล่อมมาก แล้วปรุงรสด้วยซีอิ๊วหรือเกลือ เป็นอันจบ

ทำไปลุ้นไปมากค่ะ กลัวออกมาแล้วขม จนรับประทานไม่ได้ ไอ้ด่างแถวซาน ฟรานซิสโก ก็กินมะระไม่เป็นซะด้วย พอเสร็จตักใส่ชามสวยๆ ไปให้คุณพ่อชิมเป็นคนแรกเลย รีบถามว่า "ขมมั้ย" แล้วลุ้นคำตอบจนตัวเกร็ง ก่อนคุณพ่อจะตอบว่า "ขมอร่อย ต้องรสนี้ถึงเรียกว่าแกงจืดมะระ" .. คุณลูกคุณแม่ก็หน้าบาน ไปตามระเบียบ

ขอบคุณแม่มากๆค่ะ สำหรับเคล็ดลับแกงจืดมัดใจป๊าชามนี้ ^^




1 ความคิดเห็น: